18.6 ล้านปอนด์ เขามีดีตรงไหน?

การขายกองหน้าที่ดีที่สุดของทีมออกไปก่อนที่จะซื้อมิดฟิลด์ที่ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเองอย่างจริงจังดูเหมือนจะไม่เป็นความคิดที่ดีเท่าไรนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องสูญเงินในส่วนต่างไปมากถึง 8 ล้านปอนด์
แต่สิ่งนั้นก็เกิดขึ้นแล้วกับแมนฯ ยูไนเต็ดในตลาดซื้อขายนักเตะฤดูกาลนี้
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทีมขายรุด ฟาน นิสเตลรอย นักเตะที่ทำประตูได้ถึง 150 ลูกจาก 219 นัดไปให้กับรีล มาดริด ในราคา 10.3 ล้านปอนด์
3 วันต่อมา ไมเคิล คาร์ริก มิดฟิลด์ของสเปอร์ส ได้ย้ายมาร่วมชายคาโอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 18.6 ล้านปอนด์ แม้ว่ากองกลางรายนี้ยังไม่เคยเล่นรายการยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เลยด้วยซ้ำ หรือในทีมชาติ เขาก็ยังไม่สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้อย่างถาวรแต่อย่างใด
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม อย่างน้อยข้อดีของการเสียรุด ซึ่งดูเหมือนจะหลุดฟอร์มออกไปมากเมื่อฤดูกาลที่แล้วก็พอจะมีข้อดีบ้างน่า แฟรงค์ แลมพาร์ด(ผู้พ่อ) อดีตโค้ชของเวสต์ แฮม คิดว่าการได้คาร์ริก มาเป็นหนึ่งในความสำเร็จที่น่าติดตามเลยทีเดียว
คาร์ริก กับแลมพาร์ด ผู้พ่อเคยได้ทำงานกันอย่างใกล้ชิดหลังจากที่คาร์ริกเพิ่งจะได้เป็นนักเตะอาชีพใหม่ๆ กับเวสต์ แฮม เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 1998 ขณะอายุเพียง 17 ปี
“ไม่มีอะไรน่าสงสัยเลย เมื่อผมเห็นไมเคิล เริ่มซ้อมครั้งแรก ผมก็มองเห็นถึงความสามารถในตัวเขาที่หาไม่ค่อยจะได้จากคนอื่น” แลมพาร์ด กล่าวกับ BBC
“สิ่งหนึ่งที่สะกิดความสนใจของผมเลยคือเขาทำตัวเหมือนได้บอลอยู่ตลอดเวลา ซึ่งไม่ค่อยจะเห็นจากนักเตะรายอื่นทำได้อย่างนี้”
“เรายังไม่เห็นความสามารถที่แท้จริงของไมเคิล เขาเป็นนักเตะที่ดีมาก ผมคิดว่าเขาจะสามารถทำได้ดีกว่านี้อีก”
“ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคารพสเปอร์ส นะ แต่เขาคงรู้ว่าเขาจำเป็นจะต้องก้าวไปข้างหน้าเพื่อโอกาสที่มากขึ้น”
สถิติการเล่นของคาร์ริก ฤดูกาล 2005/06
โยนบอลจากด้านข้าง – 231 ครั้งใน 35 นัด – มากกว่านักเตะคนอื่นของสเปอร์ส ถึง 133 ครั้ง
ส่งบอล – 1,938 ครั้ง – มากกว่าทุกคนในสเปอร์สเกือบ 600 ครั้ง
สร้างสรรค์ประตู – 6 ครั้ง – มากที่สุดในทีม
ประตู – 2 ลูก
แลมพาร์ดกล่าวว่าลูกชายของเขา (แฟรงค์ แลมพาร์ด นักเตะเชลซี) เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่แสดงถึงพัฒนาการที่คาร์ริก สามารถทำได้
เมื่อแลมพาร์ด ย้ายจากเวสต์ แฮม ไปเชลซี เมื่อ ปี 2001 มีผู้สงสัยจนต้องขมวดคิ้วตั้งคำถามมากมาย แต่ในที่สุดความสงสัยนั้นก็ไม่มีอีกแล้วเมื่อเขาได้กลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่เล่นเกมรุกได้เนียนที่สุดในยุโรป
“เมื่อคุณได้ซ้อมร่วมกับนักเตะระดับโลกทุกๆ วัน มันทำให้คุณสามารถเรียนรู้อะไรได้เพื่อยกระดับการเล่นให้ดีขึ้นไปอีก”
“ถ้าคุณมีความสามารถอย่างที่คาร์ริก มี แน่นอนคุณจะสามารถปรับมันมาใช้กับตัวเองเพื่อพัฒนาตัวเองได้แน่ๆ”
“สเปอร์ส ใช้งานไมเคิลในฐานะตัวพักบอลซะเป็นส่วนมาก แต่ผมว่าเฟอร์กี้น่าจะทำให้เขาทำอะไรได้มากไปกว่านี้ มันจะทำให้เขาเป็นนักเตะที่ครบเครื่องได้มากกว่านี้”
“เขาอาจจะได้รับคำสั่งให้เดินหน้าเกมรุกมากขึ้นอีกและน่าจะยิงประตูได้มากกว่านี้ การได้เคยทำงานอย่างใกล้ชิดกับเขาทำให้ผมรู้ว่าเขามีความสามารถพอที่จะทำอย่างนั้นได้”
ทางด้านแกรี่ ชาร์ลส อดีตนักเตะทีมชาติอังกฤษซึ่งเคยเล่นกับคาร์ริก 2 ฤดูกาลที่อัพตัน พาร์ค ยอมรับว่าคาร์ริก มีความสามารถที่จะก้าวขึ้นไปเป็นมิดฟิลด์ที่สมบูรณ์แบบได้
“บางคนอาจจะเคยวิจารณ์เขาไว้ว่าไม่มีอิทธิพลต่อเกมมากพอ แต่การที่ผมเคยซ้อมกับเขา ผมรู้ว่าเขาทำได้” ชาร์ลส กล่าวกับ BBC
“เขามีทุกๆ อย่าง คล่องแคล่ว จับบอลดี เล่นได้ทั้งสองเท้าแล้วยังครองบอลเหนียวแน่นไม่ให้หลุดไปง่ายๆ อีกด้วย”
คาร์ริก ย้ายมาร่วมทีมสเปอร์ส โดยการแนะนำของแฟรงค์ อาร์เนเซ่น ผู้อำนวยการกีฬาของทีม และหลังจากที่เริ่มเล่นที่สเปอร์ส อย่างยากลำบากกับฌาก ฌองตินี คาร์ริกก็ทำฟอร์มได้เจิดจรัสภายใต้การคุมทีมของมาร์ติน โยล
เมื่อสเปอร์ส บอกปัดข้อเสนอมูลค่า 10 ล้านปอนด์ของแมนฯ ยูไนเต็ด ในเดือนพฤษภาคม โยลกล่าวว่า “เรากำลังทำอะไรบางอย่างกับทีม และเราจะทำไม่ได้ถ้าขาดเขา”
และหลังจากที่คาร์ริก ไปร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกแต่ได้ลงเพียงแค่นัดเดียว ยูไนเต็ดก็ติดต่อมาอีกครั้ง
คราวนี้ข้อเสนอของแมนฯ ยูไนเต็ด ดูจะเป็นข้อเสนอมูลค่ามหาศาล และมันยากที่จะปฏิเสธได้ลง
ตอนนี้เฟอร์กูสัน คงได้แต่หวังว่าคาร์ริกจะทำฟอร์มได้สมกับค่าตัว 18.6 ล้านปอนด์และความสามารถแท้จริงที่มีอยู่ …
boom

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC

Related Posts